โคลชิซินเป็นยาที่ใช้รักษารวมทั้งปกป้องโรคเก๊าท์ โดยตัวยาจะช่วยลดการบวมและก็ลดการก่อตัวของผลึกที่เกิดขึ้นจากกรดยูริค ซึ่งเป็นต้นเหตุของลักษณะของการปวดตามข้อ นอกเหนือจากนั้น ยาโคลชิซินยังประยุกต์ใช้ปกป้องลักษณะของการเจ็บท้อง อก หรือข้อ ที่เป็นผลมาจากโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน (Familial Mediterranean Fever: FMF) ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือบางทีอาจประยุกต์ใช้รักษาโรคอื่น ขึ้นกับดุลยพินิจของหมอ อย่างไรก็ดี ยาวัวลชิสินมีข้อกำหนดใช้รวมทั้งผลกระทบมากมาย โดยเหตุนี้ การใช้ยาควรจะอยู่ภายใต้ข้อเสนอแนะของหมอหรือเภสัชกร
คำตักเตือนของการใช้ยา Colchicine
ควรจะแจ้งให้หมอหรือเภสัชกรรู้ถ้าหากมีประวัติแพ้ยานี้หรือมีลักษณะอาการแพ้ยาอื่นๆด้วยเหตุว่ายาวัวลชิสินอาจมีองค์ประกอบที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการแพ้หรืออาการไม่ประสงค์อื่นๆต่อผู้ใช้ได้ ควรจะแจ้งให้หมอรู้ถ้าหากมีประวัติแพ้ยา ของกิน หรือสารอะไรก็แล้วแต่ ควรจะแจ้งให้หมอหรือเภสัชกรรู้ก่อนใช้ยานี้ ถ้าเกิดมีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไต โรคตับแข็ง แม้กำลังใช้ยาที่หมอสั่ง ยาที่ซื้อใช้เอง โดยยิ่งไปกว่านั้นยาต้านทานเชื้อไวรัส ยารักษาเชื้อรา ยารักษาไขมันในเลือด ยาปฏิชีวนะ รวมถึงยาสมุนไพร หรืออาหารเสริม ควรจะแจ้งให้หมอรู้
คนที่กำลังท้อง วางแผนจะตั้งท้อง หรือกำลังให้นมลูก ควรจะขอคำแนะนำหมอพยาบาลถึงการเสี่ยงรวมทั้งคุณประโยช์จากการใช้ยา ซึ่งชอบใช้ยานี้ในเรื่องที่จำเป็นต้องเพียงแค่นั้น ควรจะจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องมาจากแอลกอฮอล์อาจจะก่อให้คุณภาพของยาลดน้อยลง ยานี้บางทีอาจมีผลต่อการดูดซึมของกินหรือสารอาหารบางประเภท อย่างเช่น วิตามิน บี 12 แม้มีเรื่องที่น่าสงสัยควรจะหารือหมอหรือเภสัชกรถึงเนื้อหาเพิ่มเติมอีก ถ้าหากจึงควรเข้ารับการผ่าตัด ควรจะแจ้งให้หมอหรือหมอฟันรู้ว่ากำลังใช้ยานี้ รวมถึงยาอื่นๆ ผู้สูงวัยได้โอกาสเป็นผลใกล้กันจากยาสูง โดยยิ่งไปกว่านั้นอาจส่งผลให้กำเนิดอาการกล้ามอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ปวดกล้าม เหน็บชาที่นิ้วมือแล้วก็นิ้วเท้า
ยาโคลชิซ นอาจทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการผลิตสเปิร์มต่ำลง ซึ่งบางทีอาจมีผลต่อการมีลูกได้ ถ้าเกิดมีคำถามควรจะไต่ถามหมอถึงเนื้อหาเสริมเติม ยาโคลซิชินบางทีอาจลดความรู้ความเข้าใจของร่างกายสำหรับในการต่อสู้กับการรับเชื้อ ด้วยเหตุดังกล่าว ควรจะเลี่ยงการสัมผัสหรือสนิทสนมกับคนไข้ที่ไม่สบายหรือโรคติดเชื้อ นอกนั้น ควรจะแจ้งให้หมอรู้ถ้าพบว่ามีสัญญาณของอาการติดโรค อย่างเช่น ไข้ เจ็บคอ ผื่นขึ้น หรือหนาวสั่น ยาโคลซิชินบางทีอาจลดปริมาณเกล็ดเลือด ด้วยเหตุดังกล่าว ควรจะหลบหลีกกิจกรรมที่อาจจะก่อให้มีการเจ็บหรือบวมช้ำ และก็ถ้าหากพบว่ามีเลือดไหลหรือกำเนิดรอยช้ำที่ไม่ดีเหมือนปกติ รวมถึงอุจจาระสีคล้ำหรือเป็นเลือด ควรจะแจ้งหมอให้รู้
ควรจะแจ้งให้หมอรู้แม้กำลังใช้ยาอื่นๆที่บางทีอาจเกิดปฏิกิริยาเมื่อใช้ร่วมกับยาโคลซิชิน อาทิเช่น ยาอะทาซานาเวียร์ (Atazanavir) ยาโบเซ็บพรีเวียร์ (Boceprevir) ยาคลาริโธรมัยซิน (Clarithromycin)ยาไซโคลสปอริน (Cyclosporin) ยาดารุนาเวียร์ (Darunavir) ยาอินดินาเวียร์ (Indinavir) ยาไอทราโคนาโซล (Itraconazole) ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ยาเนฟาโซโดน (Nefazodone) ยาเนวฟินนาเวียร์ (Nelfinavirnelfinavir) ยาโพซา โคนาโซล (Posaconazole) ยาราโนลาซีน(Ranolazine) ยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir) หรือยาที่มีส่วนประกอบของยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir) ยาซาควินาเวียร์ (Saquinavir) เทลาพรีเวียร์ (Telaprevir) เทลิโทรมัยซิน (Telithromycin) ยาทิพล่านาเวียร์ (Tipranavir) และก็โทรลีแอนโดมัยซิน (Troleandomycin) แล้วก็อาจมียาอื่นๆนอกจากนั้นที่อาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา แต่ถ้าใช้ยาแบบ สมุนไพรรักษาเก๊าท์ ก็จะปลอดภัยอย่างมาก เพราะผลิตจากธรรมชาติ แต่หากเป็นยาตัวอื่น ผู้ใช้ควรจะขอความเห็นกับหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนปริมาณการใช้ยาทุกประเภท